โคโรนา

(Corona)

 

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/Ecl1991a.jpg

 

โคโรนา (X-ray corona and coronal hole)

โคโรนาเป็นส่วนนอกสุดของชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์  เราสามารถมองเห็นชั้นโคโรนาได้เฉพาะเมื่อเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น โคโรนาประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ 2 ส่วนคือ โคโรนาชั้นใน (inner corona) และโคโนนาชั้นนอก (outer corona) โดยในส่วนของโคโรนาชั้นใน (inner corona) นั้นหนาประมาณ 75,000 กิโลเมตร อุณหภูมิประมาณ 2 ล้านเคลวิน ส่วนโคโรนาชั้นนอก (outer corona) นั้นอุณหภูมิจะต่ำกว่าโคโรนาชั้นใน (inner corona) เล็กน้อย และแผ่ขยายออกไปในอวกาศหลายล้านกิโลเมตร เรียกว่า ลมสุริยะ (solar wind)

สเปกตรัมของโคโรนา

ในช่วงแรกนักดาราศาสตร์สังเกตสเปกตรัมในช่วงแสงที่มนุษย์มองเห็น ซึ่งพบว่าโคโรนาเปล่งแสงสว่างในช่วงความยาวคลื่นที่ไม่ตรงกับธาตุใดที่มนุษย์รู้จัก ตอนนั้นนักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่า ชั้นบรรยากาศโคโรนาประกอบด้วยธาตุโคโรเนียม ต่อมาปริษนาได้ไขกระจ่าง เมื่อพบว่า แก๊สที่ชั้นบรรยากาศโคโรนามีอุณหภูมิสูงถึง 1,000,000 องศาเซลเซียส ปัจจุบันนักดาราศาสตร์สามารถทำสุริยุปราคาเทียม เพื่อจะศึกษาการเปล่งแสงของชั้นโคโรนา เราเรียกการถ่ายภาพที่ดวงอาทิตย์ถูกบังนี้ว่า “coronagraphs”

    

แสดงการเปล่งแสงของชั้นโคโรนา

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/green_line_corona.jpg

 

โคโรนาในรังสีเอ็กซ์

โคโรนาดุสว่างมากในรังสีเอ็กซ์ เนื่องจากมันมีอุณหภูมิสูงมาก ในทางตรงกันข้ามโฟโตสเฟียร์ปล่อยรังสีเอ็กซ์ออกมาน้อยมาก เราสามารถถ่ายภาพโคโรนาในรังสีเอ็กได้โดยเตรียมอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายภาพในรังสีเอ็กซ์ และออกไปเหนือชั้นบรรยากาศของโลก ในปี 1970 Skylab สามารถถ่ายภาพโคโรนาและโคโรนาโฮลล์ได้สำเร็จ และในช่วงสิบกว่าที่แล้ว Yohkoh ก็ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโคโรนามากมาย ในปัจจุบันเรามีดาวเทียม SOHO และ TRACE ซึ่งเก็บข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับชั้นโคโรนา

 

รูปถ่ายโคโรนาในรังสีเอ็กซ์

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/Yohkoh_920508.jpg

 

ลักษณะเด่นของชั้นโคโรนา มีทั้งหมด 4 อย่าง คือ Helmet streamers, Polar plumes, Coronal loops และสุดท้าย Coronal holes

1. Helmet streamers

Hemet streamers คือมีลักษณะแหลม คล้ายหมวก helmet ซึ่งอยู่เหนือจุดมืด (sunspots) และบริเวณที่เกิดกิจกรรมของดวงอาทิตย์ (active regions) และมักจะพบโพรมิเนนซ์ (prominence) หรือฟิลาเมนท์ (filament) เป็นฐานของโครงสร้างแบบนี้ Helmet streamers เกิดจากวงของสนามแม่เหล็กที่เชื่อมกับจุดมืดในบริเวณเกิดกิจกรรมของดวงอาทิตย์ซึ่งพยุงโพรมิเนนซ์ที่อยู่เหนือผิวของดวงอาทิตย์ สนามแม่เหล็กกักอนุภาคที่มีประจุเอาไว้อย่างหนาแน่น ที่จุดยอดของ helmet streamers เกิดจากลมสุริยะพัดที่ออกจากโคโรนา

 

รูปแสดง  Helmet streamers

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/helmet_streamer.jpg

 

2. Polar plumes

Polar plumes คือ กระแสที่ไหลออกจากขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์ มักพบว่าบริเวณที่สว่างที่เป็น footpoint ของการไหลนี้มีความเชื่อมโยงกับสนามแม่เหล็กที่ผิวของดวงอาทิตย์ด้วย โครงสร้างเหล่านี้เกี่ยวของกับสนามแม่เหล็กแบบเปิด ลักษณะ plumes เกิดจากลมสุริยะที่พัดออกจากขั้วของดวงอาทิตย์ (ลักษณะเดียวกันกับ Helmet streamers)

 

รูปแสดง polar plumes

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/eit020.jpg

 

3. Coronal loops

Coronal loops พบได้บริเวณรอบ ๆ จุดมืดและบริเวณกิจกรรมของดวงอาทิตย์ โครงสร้างนี้เกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กแบบปิดในบริเวณสนามแม่เหล็กที่ผิวดวงอาทิตย์ โดยมาก coronal loops จะอยู่ได้หลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่โดยมากจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางวงจะเกี่ยวข้องกับการลุกจ้า ซึ่งทำให้มันอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งวงเหล่านี้มักมีความหนาแน่นของสสารมากกว่าบริเวณรอบ ๆ

 

 

รูปแสดง coronal loops

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/eit020.jpg

 

4. Coronal holes

Coronal holes เป็นบริเวณที่มืดของชั้นโคโรนา ซึ่งบริเวณนั้นจะมีเส้นสนามแม่เหล็กพุ่งออกและพุ่งเข้า ลักษณะของเส้นสนามแม่เหล็กที่พุ่งออกและพุ่งเข้านี้เราเรียกว่าเป็น วงสนามแม่เหล็ก (magnetic loops) แต่จะมาบางบริเวณที่มีเส้นสนามพุ่งออกไปไกลมากๆ ก่อนที่จะพุ่งกลับเข้ามา เราเรียกบริเวณนั้นว่าโคโรนาโฮลล์ (coronal holes)

 

รูปแสดง coronal holes

Image credit: http://solarscience.msfc.nasa.gov/images/Yohkoh_920508.jpg

 

 

อ้างอิง

-    http://www.nasa.gov/worldbook/sun_worldbook.html

-    http://solarscience.msfc.nasa.gov/corona.shtml

-    http://solarscience.msfc.nasa.gov/feature3.shtml